ความยั่งยืน

Sustainability News

กรุงเทพฯ 10 กันยายน 2567 – บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” ที่ได้รับสิทธิ์รับผิดชอบ 63 จังหวัด ทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ โชว์ศักยภาพการผลิตระดับโลก เปิดโรงงานปทุมธานี หนึ่งในห้าโรงงานใหญ่ที่ผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังจาก “โคคา-โคล่า”&nbsp;ชูกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน และนวัตกรรมด้านความยั่งยืน ครอบคลุมด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรจุภัณฑ์&nbsp; ตั้งเป้าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี ของการส่งมอบความสดชื่นและสร้างคุณค่าให้สังคมไทย&nbsp;นางสาวปุณฑริกา สุสัณฐิตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ องค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด&nbsp; กล่าวว่า “ไทยน้ำทิพย์ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทย มุ่งมั่นในการสร้างความสุขและความสดชื่นให้คนไทย ผ่านการส่งมอบเครื่องดื่มแบรนด์ดังระดับโลก ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น&nbsp; กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ และสังคม โดยในแต่ละด้านมีเป้าหมายและโร้ดแมปจนถึงปี พ.ศ. 2573 แผนงานด้านความยั่งยืนถูกผนวกอยู่ในแผนงานในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่แผนงานด้านทรัพยากรบุคคล การกำกับดูแลกิจการ ไปจนถึงแผนงานด้านซัพพลายเชน ซึ่งให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด&nbsp; การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ&nbsp;และ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน&nbsp; ผ่านการวางแผนกลยุทธ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทันสมัยและตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การขนส่ง จนถึงมือผู้บริโภค”<figure class="image"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726204972442-Retouch_033.webp"></figure>นายเทอดพงษ์ ศิริเจน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านคุณภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ไทยน้ำทิพย์ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ปัจจุบัน ไทยน้ำทิพย์ มีโรงงานผลิตทั้งหมด 5 แห่ง ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับโลก รวมถึงได้รับการยกย่องในระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคใต้ในด้านการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม เรามีสายการผลิตที่ทันสมัยถึง 21 สาย มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นกว่า 450 ล้านยูนิตเคสต่อปี โรงงานไทยน้ำทิพย์ ปทุมธานี สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2524 บนพื้นที่ 140 ไร่ มีสายการผลิต 7 สาย รวมถึงสายการผลิตเครื่องดื่มแบบกระป๋องที่มีความเร็วที่สุดในโรงงานผลิตเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องในประเทศไทย สามารถผลิตได้ถึง 2,000 กระป๋องต่อนาที ในด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความยั่งยืน โรงงานไทยน้ำทิพย์ ปทุมธานี ใช้ระบบบำบัดน้ำเสีย MBR (Membrane Bio Reactor) ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้”&nbsp;การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่า งมีประสิทธิภาพ“น้ำ”&nbsp; ถือเป็นหัวใจสำคัญในทุกผลิตภัณฑ์ของไทยน้ำทิพย์ เราจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้กลยุทธ์ 3R (Reduce, Reuse, Recycle) ในกระบวนการผลิต ด้วยการ&nbsp;ลด (Reduce)&nbsp;ปริมาณการใช้น้ำ โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ทำมาใช้คือแอปพลิเคชัน “บำรุง” ที่พัฒนาโดยบริษัทไทย นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต รวมถึง บำบัด (Recycle) น้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว เช่น ติดตั้งระบบ Membrane Bio Reactor บำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีระบบ R.O. (Reverse Osmosis) เพื่อนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดจนสะอาดได้มาตรฐาน กลับมาใช้ใหม่&nbsp; ในขั้นตอนการผลิต (ไม่ใช่วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องดื่ม) ซึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 โรงงานไทยน้ำทิพย์ทั้ง 5 โรงงาน สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 907 ล้านลิตร สะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม&nbsp;การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ&nbsp;ไทยน้ำทิพย์มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดภายในกระบวนการผลิต ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานไทยน้ำทิพย์ครบทั้ง 5 แห่ง คือ โรงงานรังสิต โรงงานปทุมธานี โรงงานนครราชสีมา โรงงานขอนแก่น และโรงงานลำปาง ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดรวม 12.6242 MWp คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน นอกจากนี้ยังมีการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในรถยกสินค้า (EV Forklift) ในคลังสินค้า และรถขนส่งสินค้า (EV Truck) อีกด้วย พร้อมนำระบบ Telematics มาใช้บริหารจัดการการขนส่ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกล้อง AI ช่วยมอนิเตอร์ความเสี่ยงของพฤติกรรมการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถ ในปีพ.ศ. 2566 สามารถลดการใช้พลังงานได้ 34.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า<img class="image_resized" style="width:46.48%;" src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205027598-ThaiNamthip_Rangsit Plant (Solar).webp"> <img class="image_resized" style="width:52.3%;" src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205089691-ThaiNamthip_EV Truck.webp">&nbsp;สร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์ไทยน้ำทิพย์ สนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับโลก “World Without Waste” ของ “โคคา-โคล่า” ซึ่ง “โคคา-โคล่า” มีเป้าหมายที่จะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2568 และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกโดยใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50% รวมถึงช่วยเก็บรวบรวมและรีไซเคิลขวดหรือกระป๋องในจำนวนเทียบเท่ากับที่จำหน่าย ภายในปี 2573&nbsp;เพื่อสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ไทยน้ำทิพย์ให้ความสำคัญกับ 3 แนวทาง คือ&nbsp;ลด (Reduce)&nbsp;การใช้บรรจุภัณฑ์ด้วยการลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ผ่านการ lightweight โดยยังคงรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ไทยน้ำทิพย์สามารถลดการใช้เม็ดพลาสติกลงได้กว่า 7,645 ตัน ออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ (Redesign) เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 และใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 ไทยน้ำทิพย์ได้เปลี่ยนขวด “สไปรท์” จากขวดสีเขียวเป็นขวดใส เพื่อเพิ่มความสามารถในการนำบรรจุภัณฑ์กลับไปรีไซเคิล และสนับสนุนการจัดเก็บและรีไซเคิลขวดพลาสติกและกระป๋องที่ใช้แล้ว (Collection &amp; recycling) เพื่อสร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์ โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศไทย และกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับบรรจุภัณฑ์&nbsp;<img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205048606-Retouch_017.webp">ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ไทยน้ำทิพย์ ร่วมกับ “โคคา-โคล่า” เปิดตัวขวด “โค้ก” ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ไม่รวมฉลากและฝา) หรือ Recycled PET (rPET)&nbsp; ในบรรจุภัณฑ์ขนาด 1 ลิตร และปีนี้ได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาด 300 มิลลิลิตร และ 510 มิลลิลิตร เพิ่มเติม ที่วางขายแล้วในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยไทยน้ำทิพย์ได้ปรับสายการผลิตให้รองรับการผลิตขวด rPET ที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารได้อย่างปลอดภัย (Food Contact Grade) และเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” โดยมีแผนงานในการเพิ่มสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ในทุก ๆ ปีตามโร้ดแม็ป

Bangkok, September 10, 2024&nbsp;– ThaiNamthip Corporation Limited, the bottling partner of the Coca-Cola Company across 63 provinces in Thailand (excluding the south), showcased the company’s world-class production capabilities with the opening of its Pathum Thani plant, one of five major plants producing the renowned "Coca-Cola" brand beverages. The plant emphasized environmentally conscious production processes at every stage, incorporating sustainable innovations in water resource management, efficient energy consumption, and packaging. This commitment aligns with the company's goal to be a leader in the Thai beverage industry for sustainable business practices, commemorating its 65th Anniversary of delivering refreshment and creating value for Thai society.&nbsp;Ms. Puntarika Susuntitapong, Vice President - Public Affairs &amp; Communications, ThaiNamthip Corporation Limited, said, "As a leader in the Thai beverage industry, ThaiNamthip is committed to delivering both happiness and positive change. We strive to provide refreshment to Thai people through our world-class beverage brands while simultaneously demonstrating care for our society and the environment. Our comprehensive sustainability strategy addresses all aspects of our business, including environmental protection, product responsibility, and social impact, with specific goals and roadmaps defined for each area through 2030. These sustainability initiatives are seamlessly integrated into all our business operations, from human resources and corporate governance to supply chain management. ThaiNamthip has prioritized three main pillars: Maximizing water resource efficiency, addressing climate change, and promoting sustainable packaging. We achieve these goals through strategic planning and innovation across our entire value chain, from production and transportation to ultimately reaching our consumers."&nbsp;<img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205231029-Retouch_033.webp">Mr. Therdpong Sirijane, Vice President – Quality, Security, Environment &amp; Packaging, ThaiNamthip Corporation Limited, revealed, "ThaiNamthip utilizes cutting-edge innovation and technology throughout our production processes to maximize operational efficiency and resource optimization. Currently, we operate five state-of-the-art bottling plants across Thailand, all adhering to world-class standards and recognized within the Asia-Pacific region for their exceptional environmental performance. With 21 advanced production lines, ThaiNamthip boasts a total production capacity exceeding 450 million unit cases per year. Established in 1981, our Pathum Thani plant spans 140 rai and houses seven production lines, including Thailand's fastest canning line capable of producing 2,000 cans per minute. Demonstrating our commitment to sustainability, the Pathum Thani plant employs a Membrane Bio Reactor (MBR) wastewater treatment system, recognized as the most efficient and advanced technology currently available."&nbsp;Efficient Water Resource Management"Water" is a vital ingredient in every ThaiNamthip product, which is why ThaiNamthip prioritizes efficient water management through a comprehensive 3R strategy (Reduce, Reuse, Recycle) throughout the production process. ThaiNamthip has actively reduced water consumption, exemplified by the innovative "Bumrung" application, developed in-house to optimize water usage. The company has maximize water reused in non-production processes and recycled wastewater through systems like the highly efficient Membrane Bio Reactor (MBR). Additionally, ThaiNamthip has utilized Reverse Osmosis (R.O.) technology to purify water to meet standards for reuse in production processes (excluding beverage formulation). Between 2020 and 2023, the five ThaiNamthip plants successfully reduced water consumption by 907 million liters, demonstrating tangible achievements in the commitment to effective water management.&nbsp;Addressing Climate ChangeThaiNamthip is committed to addressing climate change by reducing carbon dioxide emissions throughout its value chain. The company has implemented a multi-faceted approach, including increasing the use of clean energy in its production processes. All five ThaiNamthip plants—Rangsit, Pathum Thani, Nakhon Ratchasima, Khon Kaen, and Lampang—are equipped with rooftop solar panels, generating a combined capacity of 12.6242 MWp, which accounts for approximately 10% of the electricity used. Furthermore, ThaiNamthip has integrated electric vehicles (EVs), including forklifts and delivery trucks, into its logistics operations and implemented a Telematics system to optimize transportation routes and reduce fuel consumption. AI-powered cameras enhance driver safety by monitoring and mitigating potential risks. These initiatives resulted in a significant 34.1% reduction in energy consumption in 2023 compared to the previous year.<img class="image_resized" style="width:46.04%;" src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205334932-ThaiNamthip_Rangsit Plant (Solar).webp"> <img class="image_resized" style="width:51.63%;" src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205346377-ThaiNamthip_EV Truck.webp">Creating a Closed-Loop System for ProductsThaiNamthip supports Coca-Cola's global "World Without Waste" vision. Coca-Cola aims to make 100% of its packaging recyclable globally by 2025 and to produce packaging with at least 50% recycled content by 2030. The company is also committed to collecting and recycling the equivalent of every bottle or can it sells globally by 2030.&nbsp;To support this goal, ThaiNamthip focuses on three key areas:·&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; Reduce:&nbsp;ThaiNamthip has reduced packaging material usage by lightweighting the packaging while maintaining product quality and freshness. Since 2009, ThaiNamthip has reduced its use of plastic resin by over 7,645 tons.·&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; Redesign:&nbsp;ThaiNamthip is redesigning the packaging to be 100% recyclable by 2025 and to include at least 50% recycled content by 2030. For example, ThaiNamthip had transitioned Sprite bottles from green to clear to improve recyclability.·&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; Collection &amp; Recycling:&nbsp;ThaiNamthip has supported the collection and recycling of used plastic bottles and cans to create a closed-loop system for the packaging. ThaiNamthip has collaborated with government agencies, private organizations, and NGOs to promote plastic recycling in Thailand and encourage consumer awareness and participation in a circular economy for packaging.<figure class="image"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1726205514901-Retouch_017.webp"></figure>Since 2023, ThaiNamthip, in collaboration with Coca-Cola, has introduced "Coke" bottles made from 100% recycled plastic (excluding labels and caps), also known as Recycled PET (rPET), in a 1-liter size. This year, they have expanded the rPET packaging to include 300ml and 510ml sizes, now available in leading supermarkets and convenience stores nationwide. ThaiNamthip has adapted its production lines to accommodate the manufacturing of rPET bottles using recycled plastic resin that meets food-contact safety standards. These standards align with those set by the Food and Drug Administration of the Ministry of Public Health (Thailand) and Coca-Cola's global standards. The company plans to progressively increase the proportion of rPET packaging used annually, following its established roadmap.

บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ‘แม็คโคร-โลตัส’ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยมีพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำ 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จํากัด&nbsp; บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและการใช้บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมค้าส่งและค้าปลีกของไทยภายใต้การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าสำคัญทั้ง 4 องค์กร จะร่วมกันเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ ‘บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน’ โดยใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิล (Recyclable) ย่อยสลาย (Biodegradable) นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recycled material) หรือมีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล&nbsp; (Recycled Content) เพื่อจัดจำหน่ายให้กับ ซีพี แอ็กซ์ตร้า รวมถึงปรับเปลี่ยนป้าย และสื่อประชาสัมพันธ์ที่ผลิตจากพลาสติกโพลีพรอพิลีน (ฟิวเจอร์บอร์ด หรือพีพีบอร์ด) ภายในศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ให้เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ หรือเป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างแท้จริง เพื่อส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ควบคู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับลูกค้า&nbsp;

ThaiNamthip Corporation Limited in partnership with CP Axtra Public Company Limited, a leading wholesaler and retailer under the ‘Makro-Lotus’s’ brand, signed a Memorandum of Understanding (MOU) to promote sustainable packaging strategy. This strategic collaboration comprises four key business partners - Nestlé (Thai) Ltd., ThaiNamthip Corporation Limited, Haad Thip Public Company Limited, and Pathum Vegetable Oil Co., Ltd. aiming to navigate business operations towards sustainability with a shared vision of reducing environmental impacts through circular economy and sustainable packaging. Furthermore, it will create positive impact and propel sustainability in Thailand’s wholesale and retail sector.Through this MOU, CP Axtra and its four key business partners will jointly strive towards a transition of ‘sustainable packaging’ by shifting to recyclable and biodegradable materials and utilizing packaging that consists of recycled material and recycled content for CP Axtra. Additionally, these leading brands will shift from in-store promotional signages made from polypropylene to those made from biodegradable or recyclable materials to promote sustainable packaging and create eco-friendly innovations to deliver quality products to customers.&nbsp;

โคคา-โคล่า ไทยน้ำทิพย์ มอบน้ำดื่มน้ำทิพย์แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากอุทกภัยครั้งนี้การให้ความช่วยเหลือชุมชนถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของเรา ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา และเรายังคงยืนหยัดเคียงข้างชุมชนต่อไป พร้อมกันนี้เราขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทุกคนผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว<figure class="image image_resized" style="width:71.25%;"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1724408538516-Image_(19).webp"></figure>&nbsp;<figure class="image image_resized" style="width:72.96%;"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1724408538240-Image_(20).webp"></figure>&nbsp;&nbsp;&nbsp;

ไทยน้ำทิพย์ร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวเชียงรายและน่านเพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุอุทกภัย 

Representatives from ThaiNamthip Chiang Rai branch and the Nan distribution center have delivered 3,000 packs of Namthip drinking water in collaboration with the Department of Disaster Prevention and Mitigation to help relieve the hardship caused by the floods. We stand with all those affected and wish for a speedy recovery from this crisis.<figure class="image image_resized" style="width:71.25%;"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1724408538516-Image_(19).webp"></figure>&nbsp;<figure class="image image_resized" style="width:72.96%;"><img src="https://webtntlprd.blob.core.windows.net/content/1724408538240-Image_(20).webp"></figure>&nbsp;&nbsp;&nbsp;

ThaiNamthip extended its support to the people of Chiang Rai and Nan to alleviate the impact of the recent floods.

Program

ThaiNamthip has placed great importance on joining the RAKNAM (Love Water) program which is a part of Coca-Cola’s global sustainability framework. RAKNAM aims to safely return the equivalent amount of water used in the production of our beverages to our communities and nature by the year 2020. Additionally, this program serves our purpose of being a key players in driving for a sustainable development in Thai society. ‘RAKNAM’ has three areas of focus - known as the 3R’s

โครงการ

ไทยน้ำทิพย์ ได้ให้ความสำคัญยิ่งต่อโครงการ "รักน้ำ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา โดยโครงการรักน้ำได้คืนน้ำสู่ชุมชนและธรรมชาติในปริมาณเทียบเท่ากับปริมาณที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มของเราภายในปี พ.ศ. 2563 ทั้งยังสอดคล้องกับเจตนารมย์ในการร่วมพัฒนาด้านความยั่งยืนให้แก่สังคมไทย โครงการ “รักน้ำ” ผ่านกรอบการทำงาน 3Rs 

Awareness building on environment and sustainable resource management is ThaiNamthip’s utmost priority. Recycle Bank program, therefore, has been created and launched
since 2017 with the collaboration and participation of all employees. Through this program, our employees are able to get hands-on learning and experience in the approach of turning waste to wealth by segregating waste at source and exchange for extra income.

การสร้างความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่ไทยน้ำทิพย์ได้ให้ความสำคัญ จึงเป็นที่มาของ "โครงการธนาคารรีไซเคิล"



Project

ThaiNamthip and the Coca-Cola Foundation Thailand have collaborated to support the Thai Red Cross Society and assist disaster victims through the "Namthip Gives Back" project

ไทยน้ำทิพย์ ร่วมกับมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ดำเนินโครงการ “น้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด” เพื่อสนับสนุนการทำงานของสภากาชาดไทยในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ 

ThaiNamthip officially established the ThaiNamthip Foundation on July 16, 2007. The foundation's main objective is to support its employees by providing crisis relief for disaster victims. Through the ThaiNamthip Foundation's efforts, employees who suffer from natural disasters will receive additional assistance to raise their living standards, in addition to the legal care and welfare that the company always provides

มูลนิธิไทยน้ำทิพย์ ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ของพนักงาน สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ถือเป็นความตั้งใจที่อยากมอบให้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการดูแลตามกฎหมายและสวัสดิการที่บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อพนักงานทุกคนมาโดยตลอด และให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วไป

Mr. Pornwut Sarasin

คุณพรวุฒิ สารสิน

Mr. Ignace Corthouts

คุณอินเยส คอร์ทเฮ้าส์

Mr. Charnvit Charindhorn

คุณชาญวิทย์ ชรินธร

Mr. Dhana Bubphavanich

คุณธนา บุบผาวาณิชย์

Mr. Tanaporn Khositaphai

คุณธนพร โฆสิตาภัย

Mr. Paulo Gaspar Rodrigues

คุณเปาโล แกสปาร์ โรดิเกส

รายละเอียด | Description

ThaiNamthip has prioritized social contribution activities, as well as environmental care and responsibility. We are focusing on four key sustainability pillars: sugar reduction, packaging, water, and climate.

We aim for our business to grow in a way that ensures our environmental and societal impact builds towards a more sustainable future.




บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด มีความมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอดพร้อมห่วงใยและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนใน 4 เสาหลัก ได้เแก่ การลดปริมาณน้ำตาล บรรจุภัณฑ์ น้ำ และ สภาพภูมิอากาศ

เรามุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เคียงข้างคนไทยสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน

รูปภาพประกอบ | Illustration

รายละเอียด (เน้น) | Description (Marked)

อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน

We aim for our business to grow in a way that ensures our environmental and societal impact builds towards

เรามุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการดูแลสังคม
และสิ่งแวดล้อม เคียงข้างคนไทยสู่

Sustainability | ThaiNamthip